294642708_452685863532049_2906726039201655041_n

วิธีที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนในโรงงาน

วิธีที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนในโรงงาน การทำให้โรงงานเย็นลงเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน โรงงานอุตสาหกรรมมักมีความร้อนสูงจากเครื่องจักรเป็นแหล่งกำเนิดความร้อน ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีประหยัดและมีประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิให้สะดวกสบาย สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยปรับปรุงความสะดวกสบายของผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานในโรงงานเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยรวมของการปฏิบัติงานอีกด้วย ตัวเลือกที่ประหยัดในการทำความเย็น: ระบบ EVAP (Evaporative Cooling): ระบบ EVAP เป็นวิธีที่คุ้มค่าการลงทุนในการทำให้โรงงานเย็นลง ระบบ EVAP ทำงานโดยใช้กระบวนการทำความเย็นตามธรรมชาติโดยใช้การระเหยของน้ำเพื่อลดอุณหภูมิของอากาศ จะมีประสิทธิภาพสูงในสภาพอากาศที่แห้ง จึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าระบบแอร์ปรับอากาศแบบทั่วไป  พัดลม Big Fan: การใช้พัดลม Big Fan เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าการลงทุนในการทำให้โรงงานเย็นลง พัดลม Big Fan จะสร้างการหมุนเวียนของอากาศภายในโรงงาน ช่วยกระจายความร้อนส่วนเกินและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากช่วยระบายความร้อนแล้ว พัดลม Big Fan ยังสามารถช่วยเพิ่มการถ่ายเทของอากาศและลดความเสี่ยงภาวะอากาศหยุดนิ่ง อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของมลพิษและสารปนเปื้อน  ตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพในการทำความเย็น: ท่อส่งลม: การติดตั้งท่อส่งลมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้โรงงานเย็นลง ท่อส่งลมทำหน้าที่ส่งลมเย็นไปยังพื้นที่ที่ต้องการภายในโรงงาน ช่วยลดอุณหภูมิโดยรวมและเพิ่มความสะดวกสบายของปฏิบัติงานที่ทำงานในพื้นที่ ท่อส่งลมสามารต่อเข้ากับระบบปรับอากาศหรือตัวเลือกที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น อย่างเช่น ระบบ EVAP ฉนวนกันความร้อน: การปรับปรุงฉนวนของโรงงานยังช่วยรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่สะดวกสบาย ด้วยการอุดช่องว่างหรือรอยรั่วในผนัง พื้น และเพดาน ป้องกันไม่ให้อากาศที่มีอุณหภูมิสูงเข้าสู่อาคารและช่วยกักเก็บอากาศเย็นไว้ภายใน นอกจากการระบายความร้อนแล้ว ฉนวนความร้อนยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดต้นทุนค่าพลังงานอีกด้วย  โดยสรุปแล้ว มีตัวเลือกที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพมากมายสำหรับการทำให้โรงงานเย็นลง ระบบ EVAP และพัดลม Big Fan เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ช่วยลดอุณหภูมิและปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศภายในโรงงาน การติดตั้งท่อส่งลมและปรับปรุงฉนวนกันความร้อนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพการรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่สะดวกสบาย ในขณะที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้...

DUST CYCLONE -UB-150A

DUST CYCLONE -UB-150A (AUTO CLEAN)  Motor 15HP Air Suction Capacity W/O Bag 7500 CFM Max. Static Pressure 33 M/sec Filter Bags 150 dia. x 2400mm (L) x 91 pcs Overall Dimension (L x W x H) 5940 x 1780 x 6000mm N.W. / G.W. 2653 kgs / 2760 kgs

DUST CYCLONE-UB-150 (BAG TYPE)

DUST CYCLONE-UB-150 (BAG TYPE)  Motor 15HP Air Suction Capacity W/O Bag 8600 CFM Max. Static Pressure 35 M/sec Filter Bags 150 dia. x 2400mm (L) x 80 pcs Overall Dimension (L x W x H) 4900 x 1120 x 4100mm N.W. / G.W. 1016 kgs / 1120 kgs

ทำให้พื้นที่ในโรงงานเย็นลงได้อย่างไร

ทำให้พื้นที่ในโรงงานเย็นลงได้อย่างไร บริเวณโรงงานอาจมีอากาศร้อนจัดโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การลดประสิทธิภาพและความรู้สึกไม่สบายสำหรับผู้ปฏิบัติงาน สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีที่ทำให้พื้นที่เย็นลงเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายและปลอดภัย ต่อไปนี้เป็นวิธีทำให้พื้นที่โรงงานเย็นลง ระบบ EVAP  วิธีหนึ่งในการทำให้พื้นที่โรงงานเย็นลง คือการใช้ระบบทำความเย็นแบบ evaporative cooling หรือที่เรียกว่าระบบ EVAP ตัวระบบทำงานโดยใช้น้ำเพื่อลดอุณหภูมิในอากาศที่หมุนเวียนอยู่โดยรอบ น้ำจะดูดซับความร้อนในอากาศ เกิดการระเหยของน้ำ ทำให้อากาศในกระบวนการเย็นลง ระบบ EVAP เป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดพลังงานในการทำให้พื้นที่โรงงานเย็นลง เนื่องจากใช้พลังงานน้อยกว่าระบบปรับอากาศทั่วไป  Big Fans & Cooljet Fans อีกวิธีในการทำให้พื้นที่โรงงานเย็นลง คือการใช้พัดลม Big Fans หรือพัดลม Cooljet สามารถวางพัดลม Big Fans ไว้ทั่วโรงงานเพื่อหมุนเวียนอากาศและสร้างกระแสลมช่วยให้พื้นที่เย็นลงได้ ส่วนพัดลม Cooljet เป็นพัดลมส่งลมความเร็วสูงที่สามารถใช้เพื่อสร้างกระแสลมแรง สามารถช่วยระบายความร้อนในจุดที่มีความร้อนภายในโรงงานได้ สามารถติดเพดานหรือบนพื้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของโรงงาน  หลากหลายวิธีในการทำให้พื้นที่โรงงานเย็นลง รวมถึงการใช้ระบบ EVAP พัดลม Big Fans หรือพัดลม Cooljet สิ่งสำคัญคือการหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับโรงงานของคุณ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับพนักงานของคุณ

พัดลมเสียงดัง กับวิธีแก้ด้วยตัวเอง

คลิกที่นี้เพื่อพิมพ์ข้อความระบบ ในบางครั้งปัญหา พัดลมเสียงดัง ก็เป็นปัญหาหลักกวนใจของหลายๆ คน ไม่ว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาด้วยวิธีใดก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ก็มักวนกลับมาอยู่เสมอ หากคุณไม่ต้องการที่จะซื้อพัดลมใหม่ และต้องการหาวิธีแก้ไข Baania ได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ในการแก้ปัญหาเหล่านี้มาไว้ให้ลองเลือกนำไปใช้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนใบพัดให้กับพัดลม หรือการเช็คสภาพพัดลม หมดปัญหากวนใจพัดลมเสียงดัง และหมุนช้า ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ สาเหตุพัดลมเสียงดัง สาเหตุของพัดลมเสียงดัง สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บุชภายในพัดลมหลวม หรือเกิดจากการประกอบส่วนประกอบ เช่น ขันน็อตไม่แน่นสนิท เกิดเสียงดังจากการที่ใบพัดลมแตกหรือหัก ซึ่งต่างก็มีหลายสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ลองมาดูสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้พัดลมเสียงดัง ดังนี้ ใบพัดลมชำรุดแตกหักการที่ใบพัดของพัดลมแตกหรือหัก จะนำมาสู่ปัญหากวนใจเป็นอย่างมาก เพราะการที่ใบพัดแตก ถึงแม้พัดลมจะสามารถทำงานต่อไปได้ แต่จะมีเสียงของใบพัดกระทบกับฝาครอบดังมาก อีกทั้งยังเกิดการสั่นสะเทือนของมอเตอร์ที่รุนแรงมาก มอเตอร์พัดลมหากเสียงที่ดังนั้นมาจากทางด้านหลังของตัวพัดลม นั่นคือเสียงดังจากมอเตอร์ ซึ่งสาเหตุที่มอเตอร์มีเสียงในระดับที่ดังกว่าปกตินั้น อาจเป็นเพราะว่า บุชและน็อตหลวม จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนภายในเครื่อง เฟืองสึกปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับพัดลมทุกชนิด เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ก็อาจจะทำให้เฟืองด้านในมอเตอร์สึกหรือเสื่อมสภาพ จึงทำให้เวลาที่พัดลมหมุน หรือกดที่ปุ่มส่าย ตัวพัดลมไม่สามารถส่ายได้ตามปกติ และมีเสียงดัง การแก้พัดลมเสียงดังด้วยตนเอง...

6 เรื่องสำคัญ สำหรับรักษาการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า

6 เรื่องสำคัญ สำหรับรักษาการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ามอเตอร์ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการทำงานในภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนต้นกำลัง หรือใช้ในการขับเคลื่อนสายพานลำเลียง รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของพวกพัดลมโบลเวอร์ต่างๆ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึง เรื่องสำคัญของมอเตอร์ที่หลายๆคนมองข้ามไปในระหว่างใช้งาน จนทำให้มอเตอร์เกิดความเสียหาย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันสาเหตุการพังเสียหายของมอเตอร์นั้น ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เสียเพราะเก่าหรือมีชั่วโมงการทำงานมานาน แต่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น1. ความร้อน2. ความชื้น3. การปนเปื้อนของสิ่งสกปรก4. การหล่อลื่นที่แบริ่งไม่เหมาะสม5. ความผิดปกติของโหลดทางกล6. ความผิดปกติของแหล่งจ่ายไฟฟ้ามอเตอร์สามารถมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวมากหากความเครียด (Stresses) จากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับมอเตอร์น้อยที่สุด โดยสาเหตุหลักของการพังเสียหายของมอเตอร์ถึง 51% มาจากความผิดปกติในการทำงานของแบริ่งการบำรุงรักษาแบบทำเป็นประจำ (Regular Maintenance) จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะสิ่งที่จะกล่าวต่อจากนี้ถือว่าเป็น 6 เรื่องสำคัญที่จะช่วยให้มอเตอร์ของคุณสามารถทำงานตามหน้าที่ได้อย่างราบรื่นยาวนาน คือ1. การหล่อลื่น (Lubrication)2. การตรวจสอบแบริ่ง (Bearing Inspection)3. การตรวจสอบสายพานขับ (Driven Belt Inspection)4. การตรวจสอบโรเตอร์ (Rotor Inspection)5. การตรวจสอบสเตเตอร์ (Stator Inspection)                     6. การตรวจสอบการติดตั้งมอเตอร์ (Motor Mounts Inspection)ภารกิจสำคัญทั้ง 6 ข้อนำเสนอนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโปรแกรมการบำรุงรักษาเชิงป้องกันโดยรวม ทั้งนี้อาจรวมเอาการทำความสะอาดเป็นระยะ การวิเคราะห์การสั่นสะเทือน การทดสอบค่าความต้านทานของหน้าสัมผัส การตรวจสอบชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว การตรวจสอบการทำงานของโอเวอร์โหลดรีย์ และอื่น ๆ เพิ่มเติมได้การปฏิบัติตามโปรแกรมการบำรุงรักษาเชิงป้องกันได้อย่างละเอียดและสมบูรณ์แบบเป็นหัวใจของความสำเร็จที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ไฟฟ้าได้นานขึ้น ทั้งยังลดโอกาสความเป็นไปได้ที่ธุรกิจการผลิตจะต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่งจากสาเหตุมอเตอร์หยุดทำงานไปได้อย่างมั่นใจ จากเนื้อหาบทความที่กล่าวถึงไปหวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านได้ระดับนึ่ง...

5 สาเหตุที่ทำให้มอเตอร์ร้อนจัด

5 สาเหตุที่ทำให้มอเตอร์ร้อนจัดอาการของมอเตอร์ ที่ร้อนจัดในขณะที่ทำงานนั้นมี สาเหตุ 5 ปัจจัย ดังนี้สาเหตุแรก เกิดจากขดลวดลัดวงจรเป็นเรื่องปกติสำหรับมอเตอร์ที่มีอายุการใช้งานมานานจะมีการเสื่อมสภาพของตัวอุปกรณ์ ถ้าสาเหตุเกิดจากเคดนี้ แนะนำให้พันมอเตอร์ใหม่จะดีที่สุดคะสาเหตุที่สอง ขดลวดลงกราวน์ความเสียหายแบบขดลวดลงกราวน์ เป็นผลมาจากฉนวนหุ้มหรือเคลือบขดลวดเกิดความเสียหายสาเหตุเกิดจาก มีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกเกิดการกัดกร่อน หรือการสั่นสะเทือนจากการทำงานของมอเตอร์วิธีแก้ไขทำได้โดย นำขดลวดมาอบน้ำยาวานิชใหม่หรือ อาบน้ำยาวานิชใหม่เท่านั้นคะสาเหตุที่สาม เกิดการลัดวงจรระหว่างขดสตาร์ทและขดรันอุปกรณ์ที่ใช้งานมานานๆ จะเกิดการเสื่อมสภาพภายใน ซึ่งอาจทำให้เกิดการลัดวงจรในขณะที่มอเตอร์ทำงาน ซึ่งหากเกิดจากสาเหตุนี้แนะนำให้พันมอเตอร์ใหม่เช่นกันคะสาเหตุที่สี่ เกิดจากลูกปืนเสื่อมสภาพอาการดังกล่าวเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ภายใน เช่น ลูกปืนสึกหรอในกรณีนี้สามารถหาซื้อลูกปืนมาเปลี่ยนใหม่ หรือส่งร้านเพื่อเปลี่ยนชุดลูกปืนใหม่ให้คะสาเหตุที่ห้า เกิดจากการโหลดเกินในสภาพการใช้งานมอเตอร์จะต้องเกิดความร้อนขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความร้อนที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุหลายประการ หนึ่งในสาเหตุนั้น คือ กระแสเกินเนื่องจากมอเตอร์รับภาระมากเกินไป หรือภาวะโหลดเกิน (OVERLOAD)สาเหตุเหล่านี้ทำให้มอเตอร์เกิดความเสียหายขึ้นได้วิธีการแก้ไขก็ง่ายๆ โดยการลดโหลดของมอเตอร์ลงหรือ เปลี่ยนมอเตอร์ใหม่ให้เหมาะสมกับกับการทำงานจากเนื้อหาบทความที่กล่าวถึงไปหวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านได้ระดับหนึ่ง หากท่านผู้อ่านสนใจและ ต้องการซื้อสินค้าหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับมอเตอร์ สามารถติดต่อสอบถามได้

ห้องนอนติดแอร์ ต้องติดพัดลมดูดอากาศ หรือไม่?

ห้องนอนติดแอร์ ต้องติดพัดลมดูดอากาศ หรือไม่?คำถามนี้ เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันมาก เพราะบางคนติดแล้วก็ไม่ได้ใช้ ปล่อยให้ฝุ่นมันเกาะพัดลมดูดอากาศเล่นซะนั้น เลยอยากจะขอยกตัวอย่างอธิบายว่าตัวอากาศเราลองคิดว่าเป็นของไหลเสมือนน้ำแล้วกัน การที่เราไม่ติดพัดลมดูดอากาศ ก็เหมือนน้ำในอ่างที่คุณขังไว้ ถ้าน้ำในอ่างไม่มีการดูดหรือถ่ายเทออกเพื่อให้เกิดการหมุนเวียน ก็จะทำให้เกิดน้ำเสียได้ ซึ่งถ้ามีการดูดน้ำออกเพื่อถ่ายเทก็ย่อมเป็นผลที่ดีกว่า แต่การดูดน้ำออก ก็ต้องมีน้ำใหม่มาเติมต้องมีน้ำใหม่มาเติม เช่นกันแต่ของทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีข้อดีและข้อเสียตามมาเสมอ ซึ่งการติดตั้ง พัดลมดูดอากาศ นั้นมีผลดังนี้ข้อดีพัดลมดูดอากาศ  คือ คุณจะได้อากาศที่ถ่ายเทในห้อง มีอากาศใหม่เข้ามาเติม จะรู้สึกสดชื่นข้อเสียพัดลมดูดอากาศ  คือ เครื่องปรับอากาศจะทำความเย็นมากขึ้น เพราะอากาศที่เข้ามาจะเข้ามาพร้อมความร้อน ช่องลมเข้าอาจต้องติดฟิลเตอร์เพื่อกรองฝุ่นละอองจากภายนอกดั้งนั้นหากเป็นห้องที่มีคนใช้งานไม่มาก และไม่มีกลิ่นรบกวน เช่นห้องนอน ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ทั้งนี้เนื่องจาก โดยธรรมชาติจะมีอากาศรั่วซึมผ่านทางกรอบประตูหน้าต่างอยู่ในปริมาณหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในการหายใจ นอกจากนี้ หากเป็นห้องประชุม ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้อากาศเย็นก่อนจะมีคนเข้าใช้ห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ให้รอจนมีคนเข้าใช้ห้องประชุมเป็นจำนวนมากก่อน จึงเปิดพัดลมระบายอากาศก็ได้จากเนื้อหาที่กล่าวถึงไปหวังว่าคงเป็นประโยชน์และช่วยคลายข้อสงสัยสำหรับทุกท่านได้ระดับนึ่ง แต่หากท่านสนใจและ ต้องการซื้อสินค้าหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับระบบระบายอากาศภายในอาคาร  สามารถติดต่อได้

วิธีเลือกพัดลมฟาร์ม ตามสไตล์สายคำนวณ

วิธีเลือกพัดลมฟาร์ม ตามสไตล์สายคำนวณ ถ้าเราพูดถึงการระบายอากาศภายในฟาร์มหรือโรงเรือนนั้น บางท่านอาจจะคิดว่า แค่ทำโรงเรือนให้โล่งๆ ให้อากาศผ่านเข้าได้ หรือติดตั้งลูกหมุนระบายอากาศบนหลังคาก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หน้าร้อนของประเทศไทยก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเลยต้องมีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ที่เรียกว่า พัดลมฟาร์มหรือพัดลมระบายอากาศ มาทำการช่วยเป่าและดูด เพื่อระบายอากาศภายในโรงเรือน แต่เราจะต้องใช้แบบไหน เลือกยังไง ลองมาดูวิธีตามต่อไปนี้กันคะถ้าเป็นโรงเรือนที่ปิดมิดชิด ควรติดแบบมีระบบดูดเข้า - ออกถ้าเป็นฟาร์มที่มีการไหลเวียนของอากาศให้ติดแบบมีระบบดูดออกอย่างเดียวได้ต้องพิจารณาที่ทิศทางการไหลเวียนของอากาศภายในโรงเรือน ควรติดพัดลมระบายอากาศตรงด้านที่รับการไหลเข้าของอากาศในห้องถ้าผนังด้านนั้นสามารถดูดออกอากาศผ่านออกไปได้เลย ให้ใช้แบบติดผนัง แต่ถ้าไม่สามารถระบายออกได้โดยตรงต้องติดแบบฝังเพดานสุดท้าย คือ การคำนวณซึ่งเป็นเคล็ดลับที่เราจะนำมาเสนอภายในบทความนี้         วิธีการคำนวณเพื่อเลือกขนาดหรือรุ่นของพัดลมระบายอากาศ ตามขนาดปริมาตรอากาศภายในห้องคือปริมาตรของโรงเรือน = กว้าง x ยาว x สูง (หน่วยเป็นเมตร)ขนาดที่ต้องใช้หรือ CMH = ปริมาตรของห้อง x ค่ามาตรฐาน - CMH = คิวบิก (ลูกบาศก์) เมตร ต่อชั่วโมง สามารถเปลี่ยนหน่วยเป็นคิวบิกฟุตต่อชั่วโมง หรือ CFH โดยการคูณ CMH ด้วย 35.32 หรือลดหน่วยต่อชั่วโมงเป็นต่อนาที โดยการหารด้วย(ค่ามาตรฐาน คือ ตัวเลขที่สัมพันธ์กับอัตราการระบายของอากาศ ที่ควรจะเป็นในโรงเรือนแต่ละประเภท)จากเนื้อหาบทความที่กล่าวถึงไปหวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านได้ระดับหนึ่ง หากท่านผู้อ่านสนใจและ ต้องการซื้อสินค้าหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับพัดลมฟาร์มและพัดลมระบบระบายอากาศ สามารถติดต่อสอบถามได้

คราบดำบนพัดลมจะหมดไป  เพียงใช้ “ แป้งสาลี “

คราบดำบนพัดลมจะหมดไป  เพียงใช้ “ แป้งสาลี “ปัญหา คราบดำบนพัดลมระบายอากาศที่แสนจะน่าเบื่อ กับการทำความสะอาดที่ยากมากๆเรามีเข็ดลับมาแนะนำกัน นั่นก็คือ " แป้งสาลี " มาดูกันว่าเจ้าแป้งนี่สามารถทำอะไรได้บ้างขั้นตอนการทำความสะอาด1. อันดับแรกเลยเราต้องมีแป้งสาลี เมื่ออุปกรณ์พร้อมก็เริ่มทำความสะอาดกันเลย2. นำใบพัดที่แสนเกรอะกรังของเราออกมาไว้ในที่ ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆ3. เทแป้งสาลีลงบนใบพัดที่มีคราบสกปรก4. ใช้มือเกลี่ยเเป้งสาลีให้ทั่วใบพัด ค่อยๆใช้มือถูให้ทั่วไปพัด เช็ดคราบออก แป้งสาลีจะซับเอาฝุ่นเเละคราบสกปรกที่ล้างออกยาก ให้หลุดติดออกไปทีละนิดๆ ถูไปเรื่อยๆ แล้วคราบที่ดำๆ ก็จะหลุดตามแป้งสาลีออกมา ใบพัดก็จะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง5. หลังจากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำเปล่า หรือ น้ำยาทำความสะอาดตามแต่สะดวก เพียงเท่านี้ ใบพัดลมของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิมวิธีง่ายๆไม่เปลืองเเรง แถมไม่เปลืองงบเเบบนี้ อย่าลืมลองนำไปใช้กันดู เพื่อความสะอาดและสุขภาพของคุณเเละคนในบ้าน