การออกแบบท่อลม (Duct Design) มี 3 วิธีหลัก ที่นิยมใช้ในงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ได้แก่:

1. Equal Friction Method (วิธีแรงเสียดทานเท่ากัน)
• หลักการ: คงค่าความต้านทานแรงเสียดทาน (Static Pressure Loss per unit length) ให้เท่ากันตลอดทั้งระบบ เช่น 0.1 นิ้วน้ำ / 100 ฟุต
• ข้อดี:
• ง่าย เร็ว เหมาะกับงานทั่วไป
• นิยมใช้มากที่สุดในอาคาร
• ข้อเสีย:
• ไม่เหมาะกับระบบที่มีหลาย branch ย่อย หรือ branch ยาวไม่เท่ากัน
• ต้องมีการบาลานซ์ลมภายหลัง

2. Static Regain Method (วิธีชดเชยแรงดันคงที่)
• หลักการ: ออกแบบให้ความเร็วลมลดลงเมื่อไปยังโซนปลายทาง ทำให้แรงดันคงที่หรือใกล้เคียงกันทุกจุด
• ข้อดี:
• กระจายลมได้ดี
• ลดปัญหาเสียงและความไม่สมดุล
• ข้อเสีย:
• ซับซ้อน ใช้เวลาคำนวณมาก
• ต้องการความรู้และซอฟต์แวร์ช่วย

3. Velocity Reduction Method (วิธีลดความเร็ว)
• หลักการ: เริ่มต้นจากความเร็วลมสูงใกล้ AHU แล้วค่อยๆ ลดความเร็วลมตามท่อที่ยาวขึ้นหรือใกล้ปลายทาง
• ข้อดี:
• เข้าใจง่าย
• ใช้ได้ดีกับระบบที่ต้องการลดเสียง
• ข้อเสีย:
• ไม่ประหยัดพื้นที่
• ใช้ท่อใหญ่บริเวณปลาย ซึ่งเปลืองวัสดุ

สรุปเปรียบเทียบ:วิธี เหมาะกับงาน ข้อดี ข้อเสีย
Equal Friction อาคารทั่วไป ง่าย เร็ว ต้องบาลานซ์
Static Regain อาคารใหญ่, ศูนย์ประชุม ลมสมดุล ซับซ้อน
Velocity Reduction งานที่เน้นเสียงเบา เข้าใจง่าย ท่อใหญ่มาก