คลิกที่นี้เพื่อพิมพ์ข้อความระบบ
ในบางครั้งปัญหา พัดลมเสียงดัง ก็เป็นปัญหาหลักกวนใจของหลายๆ คน ไม่ว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาด้วยวิธีใดก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ก็มักวนกลับมาอยู่เสมอ หากคุณไม่ต้องการที่จะซื้อพัดลมใหม่ และต้องการหาวิธีแก้ไข Baania ได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ในการแก้ปัญหาเหล่านี้มาไว้ให้ลองเลือกนำไปใช้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนใบพัดให้กับพัดลม หรือการเช็คสภาพพัดลม หมดปัญหากวนใจพัดลมเสียงดัง และหมุนช้า ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้
สาเหตุพัดลมเสียงดัง
สาเหตุของพัดลมเสียงดัง สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บุชภายในพัดลมหลวม หรือเกิดจากการประกอบส่วนประกอบ เช่น ขันน็อตไม่แน่นสนิท เกิดเสียงดังจากการที่ใบพัดลมแตกหรือหัก ซึ่งต่างก็มีหลายสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ลองมาดูสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้พัดลมเสียงดัง ดังนี้
- ใบพัดลมชำรุดแตกหัก
การที่ใบพัดของพัดลมแตกหรือหัก จะนำมาสู่ปัญหากวนใจเป็นอย่างมาก เพราะการที่ใบพัดแตก ถึงแม้พัดลมจะสามารถทำงานต่อไปได้ แต่จะมีเสียงของใบพัดกระทบกับฝาครอบดังมาก อีกทั้งยังเกิดการสั่นสะเทือนของมอเตอร์ที่รุนแรงมาก - มอเตอร์พัดลม
หากเสียงที่ดังนั้นมาจากทางด้านหลังของตัวพัดลม นั่นคือเสียงดังจากมอเตอร์ ซึ่งสาเหตุที่มอเตอร์มีเสียงในระดับที่ดังกว่าปกตินั้น อาจเป็นเพราะว่า บุชและน็อตหลวม จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนภายในเครื่อง - เฟืองสึก
ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับพัดลมทุกชนิด เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ก็อาจจะทำให้เฟืองด้านในมอเตอร์สึกหรือเสื่อมสภาพ จึงทำให้เวลาที่พัดลมหมุน หรือกดที่ปุ่มส่าย ตัวพัดลมไม่สามารถส่ายได้ตามปกติ และมีเสียงดัง
การแก้พัดลมเสียงดังด้วยตนเอง
การแก้ปัญหาพัดลมเสียงดังทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ หลังจากที่คุณรู้สาเหตุของอาการเสียงดังในพัดลมแล้ว คุณก็ควรที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ด้วยวิธีที่เหมาะสมกับอาการ ซึ่ง Baania ได้รวบรวมนำเอาเคล็ดลับ และวิธีการแก้ไขปัญหาพัดลมเสียงดังมาให้คุณได้ลองซ่อมด้วยตนเอง ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
แก้ปัญหาพัดลมเสียงดัง เวลากดส่าย
- ใช้ไขควง ไขน็อตออกจากฝาครอบมอเตอร์ หลังจากนั้นค่อยๆ ถอดฝาครอบออกด้วยความระมัดระวัง
- ไขน็อตบนฝาเกียร์ล็อคออก เพื่อถอดฝาครอบเกียร์ล็อค
- นำจารบีมาทางบริเวณเฟือง และเพลาให้ทั่วรวมถึงแกนและบุชของมอเตอร์
- หลังจากนั้นใส่อุปกรณ์ลงไปในที่เดิม แล้วขันน็อตปิดฝาครอบให้เรียบร้อย
แก้ปัญหาใบพัดลมแตกหัก ด้วยการเปลี่ยนใบพัดลม
- ซื้อใบพัดลมให้ตรงกับขนาดของแต่ละรุ่น
- เปิดฝาครอบหน้ากากของพัดลมออก โดยการค่อยๆ ดึงตรงตัวล็อคด้านล่าง
- ถอดตัวล็อคใบพัดลมออก ด้วยการหมุนอย่างระวัง
- หลังจากที่ถอดตัวล็อคของใบพัดลมออกเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำใบพัดลมเก่าออก แล้วเช็ดทำความสะอาดบริเวณแกนมอเตอร์ให้สะอาด
- นำใบพัดของพัดลมใหม่ ที่เตรียมไว้ใส่เข้าไปในที่เดิม
- ใส่ตัวล็อคพัดลมหมุนให้แน่น แล้วใส่ฝาครอบพัดลมกลับไปอย่างเดิม
แก้ปัญหาบุชและน็อตจากมอเตอร์
- ขันน็อต และถอดฝาครอบมอเตอร์ออก
- ค่อยๆ นำตัวบุชออกมาจากมอเตอร์พัดลม
- ทำความสะอาดบุชทั้งภายนอก และภายใน ด้วยการใช้ผ้าแห้ง
- ใส่บุชกลับลงไปแล้วขันให้แน่น
- นำฝากครอบมอเตอร์ใส่กลับลงไปในที่เดิม และขันน็อตให้เรียบร้อย
วิธีตรวจสอบพัดลมหลังซ่อมเสร็จ
หลังจากที่คุณทำการซ่อมพัดลมด้วยตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรมีการเช็คสภาพการใช้งานของพัดลมหลังซ่อม ด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน ใช้เวลาเพียง 5 นาที ดังนี้
เช็คระดับลมของพัดลม
เสียบปลั๊กพัดลม และลองไล่ระดับลม โดยการเปิดพัดลมตั้งแต่เบอร์ 1-3 เพื่อลองเช็คความแรงของลมในแต่ละระดับ ว่ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่
เช็คการหมุนของพัดลม
คุณควรเช็คการหมุนของพัดลมหลังจากทำการซ่อมเสร็จแล้ว เพราะบางครั้งสาเหตุหลักของอาการพัดลมเสียงดัง เนื่องจากการส่ายของพัดลม และมอเตอร์ โดยคุณสามารถลองเช็คได้โดยการเปิดพัดลมในระดับใดก็ได้ แล้วกดปุ่มส่ายด้านบนมอเตอร์ หลังจากนั้นลองดูการส่ายของพัดลม หากไม่มีเสียงดังใดๆ เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าคุณได้ขจัดปัญหาเหล่านี้ไปได้เรียบร้อยแล้ว
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาพัดลมเสียงดัง
ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาพัดลมเสียงดังกลับมารบกวนคุณอีกครั้ง ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้
เช็ดทำความสะอาดพัดลม
ควรเช็ดทำความสะอาดพัดลมให้ปราศจากคราบสกปรก หรือฝุ่นละออง ทุกๆ 1 เดือน เพื่อให้พัดลมสามารถทำงานได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ
ถนอมการใช้งาน
การถนอมการใช้งาน จะช่วยทำให้พัดลมมีอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณควรใช้งานอย่างเหมาะสม และควรพักการใช้งานบ้างในแต่ละวัน
ดูแลรักษา
ควรดูแลรักษาพัดลมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากที่สุด ไม่ควรทำตก หรือกระแทกกับสิ่งของต่างๆ เพราะอาจทำให้ใบพัดลมแตก และมอเตอร์เกิดปัญหาได้ง่าย
การเลือกใบพัดที่เหมาะสม
สำหรับการเลือกใบพัดลมให้เหมาะสมกับขนาดและลักษณะของพัดลมนั้น ส่วนใหญ่พัดลมที่ใช้ในบ้าน หลายท่านอาจจะเลือกพัดลมแบบธรรมดาทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าพัดลมประเภทนี้จะมีขนาดของใบที่แตกต่างกันออกไปตามหน้า และความกว้างของพัดลม โดยการเลือกซื้อใบพัดลมมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวัด หรือรู้ขนาดของใบพัดเดิม ส่วนใหญ่ใบพัดจะอยู่ที่ขนาด 12 14 16 18 และ 20
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกใบพัดคือ การเลือกขนาดของใบพัดให้มีขนาดเท่ากันกับขนาดเดิมตามรุ่น เพื่อให้พัดลมของคุณสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปกติ และ สมบูรณ์เหมือนเดิมที่สุด ดังนั้นจึงต้องมีการวัดขนาดเพื่อความถูกต้อง ดังนี้
1. ใช้สายวัดหรือไม้บรรทัด วัดตรงจุดศูนย์กลางของพัดลม ไปยังขอบของฝาครอบ โดยมีการนับหน่วยเป็นนิ้ว
2. นำตัวเลขที่วัดได้ มาคูณด้วย 2 จะทำให้คุณสามารถหาค่าจริงของขนาดใบพัดได้
ปัญหา พัดลมเสียงดัง เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คุณต้องพบเจอหลังใช้งานของพัดลมไปนาน ๆ แต่คุณก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยตนเองแบบไม่ง้อช่าง โดยการเปลี่ยนใบพัดของพัดลม และขันน็อตให้แน่นมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวนเหล่านี้ เพียงเท่านี้ พัดลมของคุณก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ปัญหากวนใจเหล่านี้ก็จะหมดไป และไม่กลับมาทำให้คุณเกิดความรำคาญใจขึ้นอีกอย่างแน่นอน