294642708_452685863532049_2906726039201655041_n
พัดลมอุตสาหกรรม โบลเวอร์ ระบบระบายอากาศ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนทำงาน

พัดลมอุตสาหกรรม โบลเวอร์ ระบบระบายอากาศ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนทำงานพัดลมอุตสาหกรรม เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับทุกๆอุตสาหกรรม เนื่องจากระบบหมุนเวียนอากาศที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน และเพื่อให้มั่นใจว่าในสถานที่แห่งนั้นจะมีออกซิเจนที่มากพอเพื่อการดำรงชีวิตอย่างปกติ จึงต้องมีการคิดล่วงหน้าอย่างหนัก ถึงอุปกรณ์ที่จะมีประสิทธิภาพมากพอสำหรับการสร้างสภาพอากาศที่ดี ทุกๆอุตสาหกรรมต้องการพัดลมดูดอากาศ และพัดลมระบายอากาศที่มีคุณภาพสูง และให้ผลของการหมุนเวียนอากาศที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ระบบระบายอากาศดังกล่าว จะต้องคำนึงถึงความประหยัดพลังงานร่วมด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ประเภทนี้ จะมีชั่วโมงการทำงานในแต่ละวันที่ยาวนานกว่าอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งบางแห่งมันต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป ดังนั้นการเลือกพัดลมอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ย่อมเป็นงานยากที่ต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ
อากาศที่ดีและเหมาะกับการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆจะต้องประกอบไปด้วย อากาศที่มีระดับออกซิเจนที่พอเหมาะเพื่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ อากาศที่ปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ อากาศที่ปลอดภัยไร้มลพิษ ความเย็นในระดับที่พอเหมาะเพื่อให้ความสบายในการทำงานและการใช้ชีวิตในขณะนั้น ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พัดลมอุตสาหกรรมต้องสร้างได้ และต้องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินกว่ามาตรฐานความต้องการ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบในอนาคต และนั่นคือโจทย์ของการเลือกพัดลมอุตสาหกรรม หรือโบลเวอร์
นอกจากอากาศที่ดีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สิ่งที่พัดลมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงต้องทำให้ได้ ความเงียบ เพราะสถานที่ทำงานเป็นพื้นที่ที่ต้องการความเงียบเพื่อสมาธิในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยให้เราสังเกตความผิดปกติของอุปกรณ์หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งถ้าอุปกรณ์ที่ควรเงียบเวลาทำงาน กลับมีเสียงดังแบบแปลกๆ หรือเสียงการทำงานที่ผิดปกติ เราจะสามารถรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของอุปกรณ์เหล่านั้น และสามารถจัดการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมต่อไป แต่ถ้าสถานที่ทำงานที่มีแต่เสียงพัดลมระบายอากาศที่ดังอื้ออึงตลอดเวลา แม้มันจะให้ความสดชื่น เย็นสบาย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสถานที่ที่น่าอยู่สักเท่าไหร่ และคนทำงานทุกคนคงไม่มีใครอยากจะตะโกนคุย ตะโกนสั่งงาน แข่งกับเสียงพัดลมที่ดังพอๆกับเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ฉะนั้นความเงียบเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่พัดลมอุตสาหกรรมต้องมี
พัดลมอุตสาหกรรมแบบโบลเวอร์ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของพัดลมอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมทุกสิ่งอย่างที่กล่าวมา อากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากกลิ่นรบกวน ช่วยนำพาเอาอุณหภูมิสูงๆที่ใครก็ไม่ต้องการออกไป และหมุนเวียนเอาอากาศที่เย็นสบายเข้ามาแทนที่ นอกจากนี้ ยังทำงานด้วยความเงียบ ไม่รบกวนสมาธิ แม้จะอยู่ในสถานที่ปิด ซึ่งมีขนาดเล็ก ที่เสียงหายใจยังดูเหมือนจะดังเกินไป แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับพัดลมโบลเวอร์ที่เรากำลังพูดถึง
ระบบระบายอากาศ
ในบางอุตสาหกรรมที่ต้องการความแห้ง พัดลมอุตสาหกรรมโบลเวอร์ยังสามารถทำสิ่งนั้นได้ การดูดเอาความชื้นออกไปเพื่อให้บริเวณที่เราต้องการควบคุม มีความแห้ง เพื่อให้กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในมีลักษณะสภาพแวดล้อมที่ต้องการ เช่นในโรงยิม หรือห้องฟิตเนส ที่ต้องการอากาศที่สบายๆแบบพอดี และแห้งสนิท เพื่อประโยชน์ในการเรียกเหงื่อให้แก่ผู้ออกกำลังกาย และมันยังเป็นเทคนิคขจัดกลิ่นหืน กลิ่นอับชื้น ที่มักเกิดในสถานที่ลักษณะนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ในสปา ห้องกระจก(เรือนกระจก) ห้องน้ำ ก็เป็นอีกตัวอย่างสำหรับสถานที่ที่ต้องการความแห้งจากผลงานอันยอดเยี่ยมของพัดลมอุตสาหกรรม
พัดลมโบลเวอร์ มีหลายขนาด หลายรูปแบบ ซึ่งผู้เลือกใช้งานมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานที่ค่อนข้างชัดเจน เพื่อจะได้ระบุเสป็คของพัดลมระบายอากาศสำหรับพื้นที่นั้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากความต้องสภาพแวดล้อมทางอากาศของแต่ละพื้นที่ย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่มันจะถูกกำหนดด้วยความต้องของพื้นที่ สภาพปัญหาทางอากาศที่ต้องการกำจัด และสภาพแวดล้อมโดยรอบตรงนั้น นอกจากนี้ชนิดและ วิธีการติดตั้ง รวมถึงทิศทางของการวางพัดลมระบายอากาศ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญของการสร้างระบบการหมุนเวียนอากาศที่ดีให้แก่พื้นที่ที่ต้องการ
พัดลมอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับการติดตั้งที่ถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากปัจจัยของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ฉะนั้นตำแหน่ง จำนวน วิธีการติดตั้งและทิศทางของอากาศที่ต้องการจะถูกกำหนดโดย ความต้องการและสภาพพื้นที่เป็นหลัก นี่เป็นความพิเศษของระบบการหมุนเวียนอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องของความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่ต้องสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้ การใช้พัดลมระบายอากาศหลายตัว ไม่ได้เป็นการการันตีว่าเราจะได้การหมุนเวียนอากาศที่ยอดเยี่ยม การติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ไม่สนใจในเรื่องทิศทางของลม อาจไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากการสิ้นเปลืองพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้นเอง
การเจาะผนังเพื่อติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือการติดตั้งบนผ้าแล้วใช้พัดลมดูดอากาศออกผ่านท่อขนาดใหญ่ เพื่อนำพาอากาศที่ไม่ต้องการออกสู่ภายนอก จะให้ผลของการสร้างการหมุนเวียนอากาศที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เราต้องการจากการระบายอากาศคืออะไร ถ้าเราต้องการเพียงแค่การถ่ายเทอากาศ เพื่อหมุนเวียนเอาอากาศดีจากภายนอก มาขับไล่อากาศที่กำลังจะหมดสภาพออกไป การติดพัดลมระบายอากาศที่ผนังห้องถือว่าเพียงพอต่อความต้องการลักษณะนี้ แต่ถ้าจุดมุ่งหมายของการใช้งานมีความพิเศษตรงที่ต้องการกำจัดอากาเสียที่ปนเปื้อนด้วยคุณลักษณะที่ไม่พึงประสงค์เช่น กลิ่นเหม็นต่างๆ สารเคมีบางชนิด หรือจะเป็นควันที่เกิดจากการเผาไหม้ พัดลมดูดอากาศที่ติดตั้งเป็นชุถดพร้อมท่อระบายอากาศที่จำนำพาอากาศเสียเหล่านี้ออกไปปล่อยยังพื้นที่ที่จะไม่รบกวนการดำรงชีวิตของคนอื่น หรือสร้างความเดือดร้อนให้กันคนที่อยู่ภายนอกอาคาร ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ในขณะที่บางสถานที่ต้องการอากาศที่เย็นสบายแบบพอดี พื้นที่ขนาดใหญ่บางแห่งไม่เหมาะกับการลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อการติดเครื่องปรับอากาศ สำหรับการสร้างความเย็นให้กับอาคาร การติดตั้งพัดลมระบายอากาศในทิศทางที่เหมาะสม ร่วมกับการออกแบบอาคารที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายเทอากาศและการป้องกันความร้อนจากภายนอก อย่างยอดเยี่ยม จะส่งผลให้ภายในอาคารมีอากาศเย็นสบาย และมีการหมุนเวียนอากาศที่ดีมาก อีกทั้งการทำในลักษณะนี้ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องพลังงานไฟฟ้าได้อย่างดีในระยะยาว
มาตรฐานของสถานประกอบการ เป็นอีกหนึ่งข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่ควบคุมการออกแบบอาคารเพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และยังต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และสวัสดิการต่างๆ สารปนเปื้อนในอากาศ อุณหภูมิที่พอเหมาะ จำนวนคนต่อพื้นที่ ปริมาณของควันที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เครื่องจักรทำงาน และมาตรฐานอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของการสร้างระบบหมุนเวียนอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม และในอาคารประเภทต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องการการสร้างมลพิษทางอากาศ
กาจัดหาปริมาณอากาศดีที่พอเหมาะกับความต้องการของพื้นที่ ขึ้นอยู่กับขนาดทางกายภาพของพื้นที่ที่เรากำลังวางแผนจะสร้างระบบระบายอากาศ วิธีการคำนวณเบื้องต้น เราจะต้องรู้ขนาดพื้นที่และปริมาตรของอาคาร และเอาปริมาตรห้องที่ได้นั้น ไปหารด้วยปริมาณการเปลี่ยนแปลงอากาศต่อนาที ที่ระบุเอาไว้ตามประเภทของห้องและอาคารต่างๆ จะกลายเป็นปริมาตรการหมุนเวียนของอากาศที่เราต้องการ สำหรับพื้นที่ห้องหรืออาคารนั้นๆ ดังสมการ
ปริมาณห้อง (กว้างxยาวxสูง) = ปริมาตรการไหลของอากาศ ( CFM )
การเปลี่ยนแปลงของอากาศ / นาที
หน่วยวัด ค่า CFM จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความสามารถของพัดลมอุตสาหกรรม พัดลมดูดอากาศ หรือพัดลมระบายอากาศ ค่าตัวนี้ จะเป็นตัวบอกได้ว่าพัดลมตัวนี้มีความสามารถให้ความเร็วลมได้เท่าไหร่ และความเร็วลมนี้เองที่จะเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของพัดลมที่เราจะใช้ในระบบระบายอากาศ หน่วยวัดนี้นิยมใช้ในแถบอเมริกาและอังกฤษ ส่วนในประเทศไทย หน่วยที่ใช้เพื่อระบุความเร็วลมคือ m3/h (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง) แต่ใช้วิธีการคำนวณแบบเดียวกัน แตกต่างกันเพียงแค่หน่วยของมันเท่านั้นเอง ค่า CFM จะถูกระบุเอาไว้กับตัวเครื่องของพัดลมระบายอากาศทุกแบบ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญของตัวเครื่อง และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ ทั้งนี้ วิศวกรผู้ออกแบบอาคารอุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องเข้าใจหลักเกณฑ์ตรงนี้ และจะนำมาเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการออกแบบอาคารประเภทนี้
การระบายอากาศที่ดี เป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของปัญหาการระบายอากาศในอาคารอุตสาหกรรม ส่วนอีก ครึ่งหนึ่งที่เหลือ คือการจัดหาอากาศใหม่เข้ามาทดแทนอากาศที่ถูกระบายออกไป ถ้าเราระบายอากาสออกไปมากกว่าการนำเอาอากาศใหม่เข้ามาทดแทน ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อาจพอๆกับการที่ระบบระบายอากาศไม่ดีพอ และสภาพแบบนี้เป็นอันตรายกับคนทำงานให้ถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทั้งการดูดเข้าและการระบายออกจะต้องอยู่ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน เพื่อรักษาความสมดุลยของอากาสตลอดทั้งวัน
เรื่องสุดท้ายที่อยากจะฝากถึงผู้อ่านทุกท่าน นั่นคือ การมองถึงคุณสมบัติของพัดลมอุตสาหกรรมแบบโบลเวอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในการระบายอากาศ จะช่วยให้เกิดคุณลักษณะที่ดีของอาคาร ซึ่งเต็มไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษ กลิ่นและควัน รบกวนการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
อันดับแรก คือ คุณสมบัติของอายุการใช้งานที่ยาวนานเกิน 200% เนื่องจากพัดลมอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวัน และอาจยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง การซ่อมบำรุง และการปรับเปลี่ยนพัดลมจึงทำได้ยาก ดังนั้นการสร้างอากาศที่ดีอย่างต่อเนื่อง จำเป็นจะต้องมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง และยังต้องมาอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าพัดลมทั่วๆไป
อันดับที่สอง พัดลมอุตสาหกรรมจะต้อง ใช้พลังงานน้อยกว่า เพื่อการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังเกี่ยวเนื่องกับ สเป๊คเครื่องอีกด้วย กล่าวคือ พัดลมระบายอากาศที่มีแรงดันสูงๆ ย่อมกินไฟมากตามไปด้วย ทั้งที่ความต้องการหมุนเวียนอากาศของเราจากพัดลมเหล่านี้ ไม่ได้มีอัตราการหมุนเวียนที่รวดเร็วและสูงมากมายขนาดนั้น เมื่อเลือก สเป๊คที่สูงเกินความต้องการ ย่อมส่งผลให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าแบบเปล่าประโยชน์และเป็นค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกด้วย
อันดับที่สามคือมีการออกแบบและการควบคุมที่เรียบง่าย พัดลมระบายอากาศ ไม่ควรมีความซับซ้อนมากนัก ตัวไหนทำหน้าที่อะไร ก็ควรจะแยกหน้าที่ให้ชัดเจน เช่น พัดลมตัวนี้เพื่อการระบายอากาศ พัดลมตัวนี้เน้นการดูดควันและสารพิษ ส่วนอีกตัวนึ่งเน้นการดูดอากาศเข้ามาในพื้นที่ บางตัวเหมาะแก่การสร้างอากาศที่แห้งสะอาด บางตัวเน้นดูดกลิ่น เป็นต้น การระบุหน้าที่ให้ชัดเจน จะทำให้เราได้ประสิทธิภาพของงานจากพัดลมอุตสาหกรรมอย่างสูงสุด
อันดับสุดท้าย คือการช่วย ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายของการซ่อมบำรุง ค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งค่าพัดลมเอง การเลือกพัดลมอุตสาหกรรมที่ดีมีคุณภาพ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีความเหมาะสมกับพื้นที่ จะช่วยให้ไม่มีค่าใช้จ่ายที่บานปลาย ในอนาคต ค่าใช้จ่ายจะลดลง และคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว
และทั้งหมดนี้ คือเรื่องราวที่น่าสนใจของพัดลมอุตสาหกรรม ทั้งในเรื่องของรูปแบบ การเลือกซื้อ การใช้งาน ประโยชน์ และข้อคำนึงถึง ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ที่เลือกใช้งานตามคำแนะนำข้างต้น เพื่อประโยชน์สุขของคนทำงาน เพื่ออนาคตของธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมทั้งการมีอากาศบริสุทธิ์ไว้หายใจของตัวเราเอง
จากเนื้อหาบทความที่กล่าวถึงไปหวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านได้ระดับนึ่ง หากท่านผู้อ่านสนใจและ ต้องการซื้อสินค้าหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับพัดลมอุตสาหกรรม โบลเวอร์ ระบบระบายอากาศ สามารถติดต่อสอบถามได้