การ ปรับบาลานซ์ลมในระบบท่อลมแบบเหลี่ยม (Rectangular Duct) ต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้ลมจ่ายในแต่ละจุดได้ปริมาณตามที่ออกแบบไว้ โดยเฉพาะท่อเหลี่ยมที่มีความซับซ้อนกว่าท่อกลมในบางจุด เช่น การไหลวน มุมอับ และแรงดันตกคร่อมสูงขึ้นหากออกแบบผิดพลาด
✅ วิธีการปรับบาลานซ์ลมในระบบท่อเหลี่ยม
- ใช้ Damper ในแต่ละแขนของท่อ
• ติดตั้ง Volume Damper หรือ Balancing Damper (เช่น splitter damper หรือ opposed-blade damper)
• ปรับให้ลมที่ไหลไปแต่ละจุดสมดุลกัน (ไม่มากหรือน้อยเกินไป) - ใช้ Flow Hood หรือ Anemometer วัดที่หัวจ่าย
• วัดค่า CFM (Cubic Feet per Minute) ที่หัวจ่าย (Diffuser หรือ Grille)
• เปรียบเทียบกับค่าออกแบบ แล้วปรับ Damper เพื่อให้ค่าใกล้เคียงที่สุด
- กรณีไม่มี Damper ให้ใช้วิธี “ปรับแรงต้านทาง”
• เช่น ลดขนาดปลายท่อ หรือใส่ Orifice Plate / แผ่นเจาะรู เพื่อสร้างแรงต้านทางให้ลมไหลน้อยลงที่จุดลมแรง
• หรือเพิ่มความยาวท่อ / ข้อโค้ง เพื่อเพิ่มแรงดันตกคร่อม
- ปรับด้วยการ “รีดีไซน์” หาก Flow ผิดพลาดมาก
• เช่น การแบ่งลมไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น หรือหัวจ่ายอยู่ใกล้ AHU เกินไป
• อาจต้องเปลี่ยนจุดจ่าย หรือปรับเส้นทางท่อใหม่
📐 ตัวอย่างรูปแบบท่อเหลี่ยมที่มักใช้ในงาน
รูปแบบ คุณสมบัติ
ท่อตรงแนวยาว (Main Duct) กระจายลมหลัก, ต้องมี damper แยกเป็นแขน
ท่อ Branch แยกออก ต้องคุมปริมาณลมแต่ละแขน
ท่อแนวดิ่ง (Riser) สำหรับอาคารสูง, ต้องบาลานซ์ชั้นล่าง-บน
ท่อ Return Air บางระบบต้องบาลานซ์ฝั่งดูดด้วย
🔧 อุปกรณ์ที่ใช้ในการบาลานซ์
• Flow Hood – วัดปริมาณลมที่หัวจ่าย
• Anemometer – วัดความเร็วลมในท่อ
• Pitot Tube + Manometer – วัดแรงดันและความเร็วภายในท่อ
• Balancing Damper – อุปกรณ์ปรับปริมาณลม
• Duct Traverse Tool – สำหรับวัดพื้นที่หน้าตัดท่อแบบเหลี่ยม